ศิริราช จับมือ MIT Hacking Medicine ดัน “Hackathon นวัตกรรมสุขภาพ” ขึ้นแท่นระดับอาเซียน ภาครัฐ-เอกชน ร่วมปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดโลก ผ่าน Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025 พร้อมเปลี่ยนไอเดียขับเคลื่อนด้วย AI
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันการแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย ผนึกกำลังกับ MIT Hacking Medicine จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศจัดงาน “Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เปิดเวทีการแข่งขัน Hackathon แบบเข้มข้น ระดมไอเดียค้นหาสุดยอดนวัตกรรมโซลูชั่นอย่างยั่งยืนด้านการรักษาและบริการสุขภาพระดับนานาชาติ พร้อมจัดตั้งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะเวลา 3 ปี เพื่อวางรากฐานให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านสุขภาพของภูมิภาคอาเซียน โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพอาเซียน พลิกโฉมสุขภาพแห่งอนาคต
Hackathon ปีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากศักยภาพอันมหาศาลของ ปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์ (Generative AI) โดยธีมหลักของงานคือ “AI Today, Transforming Tomorrow’s Healthcare” ซึ่งมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสำคัญในประเด็น “โรคเรื้อรัง” (Chronic Disease) และ “สุขภาพจิต” (Mental Health) ผ่านการนำ AI ไปใช้ในการปฏิรูปการดูแลผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพระบบสุขภาพสาธารณะ และลดความเหลื่อมล้ำในบริการ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมจากหลากหลายสาขาวิชา มารวมทีมและทำงานร่วมกันเพื่อ ตลอดช่วงสุดสัปดาห์และต่อเนื่องถึงงานประชุม ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ นักเทคโนโลยี นักออกแบบ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักลงทุน จะร่วมกันพัฒนาแนวทางแก้ไขที่น่าสนใจต่อความท้าทายด้านสุขภาพทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน ทั้งยังสนับสนุนโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green) ของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้าน BioHealth และ Digital Healthศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภูมิทัศน์นวัตกรรมสุขภาพในประเทศไทย Hackathon และการประชุมประจำปีนี้ถูกออกแบบให้กลายเป็นเวทีระดับภูมิภาค ที่เชิญชวนผู้ร่วมงานจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมสุขภาพรูปแบบใหม่ ผ่านความร่วมมือข้ามสาขาวิชา กิจกรรมนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพระหว่างประเทศ โดยอาศัยพลังจากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุขภาพ อุตสาหกรรมยา ระบบบริการสุขภาพ สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ และองค์กรภาครัฐ-เอกชน เราไม่ได้เพียงแค่จัด Hackathon แต่เรากำลังสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ที่จะเปลี่ยนไอเดียที่มีศักยภาพให้กลายเป็นโซลูชันที่พร้อมออกสู่ตลาด และมีผลกระทบในระดับโลก”
AI Today, Transforming Tomorrow’s Healthcare
งาน Hackathon ปีนี้เน้นศักยภาพของ AI ในการตอบโจทย์ความท้าทายที่ผู้ป่วย บุคลากรการแพทย์ และระบบสุขภาพเผชิญ โดยธีมหลัก “AI Today, Transforming Tomorrow’s Healthcare” จะเชื่อมโยงทั้ง Hackathon และงานประชุมผู้เข้าร่วม Hackathon จะรวมทีมแบบข้ามสาขาวิชา เพื่อแก้ปัญหาจริงจากโลกความเป็นจริง โดยต้องออกแบบโซลูชันที่ขยายผลได้และนำไปใช้ได้จริง โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลศิริราชให้คำแนะนำ และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับทีมต่าง ๆ ไฮไลท์คือ ผู้เข้าร่วมที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับ “Golden Ticket” เพื่อเข้าร่วม MIT Grand Hack 2026 ที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา พร้อมรับคำปรึกษาและโอกาสในการรับทุนสนับสนุน กิจกรรม 5 วัน ประกอบด้วย:
• Hackathon เข้มข้น (31 ต.ค. – 2 พ.ย.): ทีมข้ามสายงานพัฒนาแนวทางจัดการโรคเรื้อรังและสุขภาพจิต
• Showcase และ Networking (2 พ.ย.): ทีมชนะนำเสนอผลงานต่อผู้เชี่ยวชาญ พร้อมโอกาสสร้างเครือข่ายในวันที่ 3 พ.ย.
• ประชุมนวัตกรรมสุขภาพนานาชาติ (4 พ.ย.): ปาฐกถาและเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก นักลงทุน และผู้ปฏิบัติการ พร้อมกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม
ศ. ดร. นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า “Siriraj x MIT Hacking Medicine ไม่ใช่แค่เวทีแข่งขันทางวิชาการ แต่คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ด้านธุรกิจสุขภาพ เรากำลังสร้างเวทีระยะยาว ที่จะผลักดันธุรกิจสุขภาพอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค ทีมที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับคำปรึกษา ทุนการศึกษาสำหรับเข้าโครงการ HEALTHI Lab โอกาสในการเชื่อมโยงกับภาคเอกชน นักลงทุน และแหล่งทุนเพื่อขยายผลไปสู่ตลาดจริง”
หลักสูตรผู้บริหารใหม่ เปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ แนวปฏิบัติ และบริการ ขณะที่กิจกรรมแบบเปิดช่วยจุดประกายบทสนทนาในวงกว้าง
การนำผลงานนวัตกรรมสู่ตลาด ยังคงเป็นความท้าทายสำหรับผู้สร้างสรรค์ด้านสุขภาพในภูมิภาคนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก MIT จึงร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทย เพื่อเปิดตัว หลักสูตรอบรมผู้บริหารแบบเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Action Learning Executive Course) ซึ่งออกแบบมาเพื่อพัฒนา ผู้ประกอบการ (entrepreneurs) รวมถึง ผู้สร้างนวัตกรรมภายในองค์กร (intrapreneurs) และ ผู้นำด้านนวัตกรรมในภาคธุรกิจ (corporate innovation leaders) ให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ แนวปฏิบัติ และบริการที่ตอบโจทย์ได้จริง โดยหลักสูตรใหม่นี้ใช้ชื่อว่า HEALTHI Lab (Healthcare Entrepreneurial Action Learning for Thailand Innovation) และจะเริ่มอบรมรุ่นแรกภายในปีนี้
โดย MIT นำประสบการณ์จากทั้งในมหาวิทยาลัยและจากพื้นที่รอบบอสตัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางบ่มเพาะนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก มาสร้าง โมเดลการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ ร่วมกับประเทศไทย โดยมีศิริราชเป็นฐานของบริบททางคลินิก ทำหน้าที่เป็น “สนามทดลอง” สำหรับวิศวกร ผู้ประกอบการ นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ นักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการทดสอบ ตรวจสอบความถูกต้อง และผลักดันนวัตกรรมให้เกิดผลกระทบทางสังคมที่มีความหมาย นอกจากนั้น ในอนาคต HEALTHI Lab ยังมีแผนจัดกิจกรรมเปิดให้ทุกคนเข้าร่วม อาทิ Mini-Webinar แบบออนไลน์ ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำนวัตกรรมสุขภาพระดับแนวหน้าจากทั่วโลก
ทั้งนี้ ผู้เข้าอบรม HEALTHI Lab จะได้รับ:
● โอกาสเข้าถึงบริบทของโรงพยาบาลจริงเพื่อเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง
● ทรัพยากรทางเทคนิคเพื่อสร้างต้นแบบ (prototype) และทดลองแนวคิดอย่างต่อเนื่อง
● กิจกรรมกลุ่มเชิงโครงสร้างเพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้และพัฒนา
● การให้คำปรึกษา (mentorship) เพื่อเตรียมความพร้อมให้นวัตกรรมสามารถเข้าสู่ตลาด หรือถูกนำไปใช้จริงภายในองค์กร
● ผู้เรียนจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วม Hackathon และงานประชุม ผ่านกิจกรรมเชิงโต้ตอบในแต่ละช่วงของงาน ซึ่งจะช่วยให้
แนวคิดได้รับการปรับแต่งและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงท้ายของหลักสูตรที่มุ่งเน้นการขัดเกลาโครงการให้พร้อมใช้งาน
ดร.แอนจาลี ซัสทรี (Dr.Anjali Sastry) อาจารย์อาวุโสแห่ง MIT Sloan School of Management ผู้ก่อตั้ง GlobalHealth Lab แห่ง MIT และอดีตรองคณบดีของ MIT Open Learning และอดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ Harvard กล่าวว่า “HEALTHI Lab พลิกโฉมนวัตกรรมสุขภาพด้วยการฝังผู้ประกอบการไว้ในบริบทของโรงพยาบาล พร้อมประสานความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เราใช้แนวทางลงมือทำจริง (hands-on) เพื่อให้มั่นใจว่าโซลูชันสามารถใช้งานได้จริง และยังเป็นแนวทางการเรียนรู้ที่มอบข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับผู้นำที่ต้องการขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยผู้เข้าร่วมจะประกอบด้วยผู้ประกอบการ ผู้บริหาร และพนักงานที่มีแนวคิดเชิงนวัตกรรมจากภายในองค์กร สิ่งที่ทำให้โครงการนี้โดดเด่นคือ ขอบเขตระดับภูมิภาค ซึ่งเรากำลังสร้างสายส่งนวัตกรรมที่เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสุขภาพจากบอสตัน เข้ากับระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาและความท้าทายเฉพาะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ผู้ที่สนใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสุดยอดการประชุมสุขภาพ ‘Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025’ หรือเข้าร่วมการแข่งขัน Hackathon และ หลักสูตร HEALTHI Lab สมัครได้แล้วทางเว็บไซต์ www.SirirajxMITHackMed.com